1.ข้อมูลพื้นฐาน
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเช่น ไชน่าทาวน์ใหม่นางาซากิ,เดจิมะ,สวนกลาเวอร์,โบสถ์โออูระ,พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ จังหวัดนางาซากิยังมีเกาะที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น สึชิมะ,อิกิ,หมู่เกาะโกโตะ,คุจูกุชิมะ,เกาะเรือรบ,อิเคชิมะ ที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และประวัติศาสตร์ลึกซึ้ง
เดจิมะ (Dejima)
เดจิมะ (Dejima) เป็นเกาะมนุษย์สร้างในช่วงเอโดะที่ญี่ปุ่นจำกัดการค้ากับต่างประเทศ สร้างขึ้นในปี 1636 เดิมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของคริสเตียนโดยชาวโปรตุเกส ต่อมาเป็นศูนย์การค้าของชาวดัตช์ หลังจากที่ทางการดัตช์ปิดในปี 1859 เดจิมะถูกเชื่อมต่อกับพื้นดินรอบข้างและสูญเสียรูปลักษณ์เดิม ในปี 2000 เพื่อเฉลิมฉลอง 400 ปีแห่งการแลกเปลี่ยนระหว่างญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ ศูนย์การค้าผสมนางาซากิเดจิมะวาร์ฟได้เปิดในพื้นที่อ่าวนางาซากิ
สวนกลาเวอร์ (glover-garden)
สวนกลาเวอร์เป็นบ้านเก่าของนายทุนการค้าชาวสก็อตแลนด์ โทมัส บล็อค กลาเวอร์ ประกอบด้วยบ้านสไตล์ตะวันตกอายุมากกว่า 150 ปี 3 หลัง (บ้านเก่ากลาเวอร์,บ้านเก่าลินเกอร์,บ้านเก่าออร์ต) และอาคารประวัติศาสตร์อื่นๆ อีก 6 หลัง ซึ่งเหล่านี้ล้วนมีลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรมแบบผสมระหว่างญี่ปุ่นและตะวันตก จากสวนนี้สามารถชมวิวทิวทัศน์ของท่าเรือนางาซากิและภูเขาอินาซะได้
โบสถ์โออูระ (Ooura tensyudo)
โบสถ์โออูระเป็นโบสถ์คาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างเสร็จในปี 1864 สร้างขึ้นภายใต้การออกแบบของพระฟูเล่และพระปิติจง ระหว่างปี 1875 ถึง 1879 มีการขยายและปรับปรุง โดยเปลี่ยนจากผนังไม้ไปเป็นอิฐ แต่ส่วนใหญ่ภายในยังคงรักษารูปแบบเดิมไว้ โบสถ์โออูระเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการรักษาความเชื่อคริสเตียนในช่วงห้ามคริสเตียนมากว่า 250 ปี และเป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นหลังจากถูกระเบิดปรมาณูและฟื้นฟู
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ
เมืองนางาซากิถูกทิ้งระเบิดปรมาณูในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ทำให้ประชากรประมาณ 150,000 คนเสียชีวิต พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากินำเสนอสถานการณ์ที่น่าเศร้าของการถูกระเบิด ประวัติศาสตร์การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และสถานที่ใกล้เคียงยังมีสวนสันติภาพ ซึ่งมีรูปปั้นสันติภาพสูง 9.7 เมตร น้ำหนัก 30 ตัน สร้างโดยศิลปินชาวนางาซากิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักของพระเจ้าและความเมตตาของพระพุทธ เป็นรูปปั้นที่มีความหมายลึกซึ้งต่อเหตุการณ์นี้
เกาะเรือรบ (Gunkanjima)
เกาะฮะชิมะ (Hashima) ที่เป็นมรดกโลกอยู่ห่างจากท่าเรือนางาซากิ 40 นาทีด้วยเรือ เป็นเกาะที่เคยเป็นเหมืองถ่านหินใต้ทะเล ชื่อเรือรบมาจากลักษณะของอาคารคอนกรีตหลายชั้นที่คล้ายเรือรบ ในช่วงที่เฟื่องฟูที่สุดมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 5,300 คน เกาะนี้มีโรงเรียน โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ และฮอลล์ปาจิงโกะ แต่หลังจากที่แหล่งพลังงานเปลี่ยนจากถ่านหินเป็นน้ำมัน เกาะก็ถูกทิ้งร้างในปี 1974 ตอนนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้
อิเคชิมะ (Ikeshima)
อิเคชิมะตั้งอยู่นอกชายฝั่งจังหวัดนางาซากิ เป็นเกาะเหมืองถ่านหินที่สำคัญเช่นเดียวกับเกาะเรือรบ การพัฒนาเหมืองถ่านหินเริ่มต้นในปี 1952 และการขุดเริ่มต้นในปี 1959 แต่เนื่องจากความต้องการถ่านหินลดลงจากการใช้พลังงานไฟฟ้า เหมืองถูกปิดในปี 2001 ปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 150 คน ไม่ถูกทิ้งร้างอย่างเกาะเรือรบ มีซากปรักหักพังของเหมืองถ่านหินมากมายบนเกาะ การเยี่ยมชมเหมืองต้องเข้าร่วมทัวร์และบางครั้งมีอดีตคนงานเหมืองเป็นไกด์
หมู่เกาะโกโตะ (Gotorettou)
หมู่เกาะโกโตะตั้งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดนางาซากิ ประกอบด้วยเกาะใหญ่เล็กประมาณ 150 เกาะ โดยเฉพาะเกาะฟุคุเอะ,เกาะคุกะ,เกาะนารุ และเกาะโดยรอบมีทิวทัศน์งดงาม สามารถเดินทางมาจากนางาซากิโดยเครื่องบินประมาณ 30 นาทีหรือเรือเจ็ทฟอยล์ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 17 องศาเซลเซียส ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมตลอดทั้งปี
คุจูกุชิมะ (Kujukushima)
คุจูกุชิมะตั้งอยู่ในพื้นที่ทางทะเลยาวประมาณ 25 กม.จากซาเซโบะถึงฮิราโด้ ประกอบด้วยเกาะมีผู้อยู่อาศัย 4 เกาะและเกาะไม่มีผู้อยู่อาศัย 204 เกาะ “คุจูกุ” หมายถึง “มากมายจนนับไม่ถ้วน” และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีเกาะหนาแน่นที่สุดในญี่ปุ่น มีระบบนิเวศที่หลากหลายและเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด
สึชิมะ (Tushima)
สึชิมะเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ใกล้กับปูซานประมาณ 49.5 กม.มีขนาดยาวจากเหนือสู่ใต้ประมาณ 82 กม.และกว้างจากตะวันออกสู่ตะวันตกประมาณ 18 กม.89% ของเกาะถูกปกคลุมด้วยป่า มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย และเป็นที่รู้จักในด้านกิจกรรมกลางแจ้งเช่น การเดินป่าและการพายเรือคายัค
ฮิกิ (Iki)
เกาะฮิกิเป็นเกาะห่างไกลในจังหวัดนางาซากิ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากฮาโกดาโดยเรือเร็วประมาณ 1 ชั่วโมง และจากสนามบินนางาซากิโดยเครื่องบินประมาณ 30 นาที บนเกาะนี้มีชายหาดและบีชมากกว่า 10 แห่ง ที่ซึ่งมีชายหาดทรายขาวธรรมชาติที่เกิดจากเปลือกหอยที่ถูกบดขยี้อยู่หลายแห่ง ทะเลสีเขียวมรกตใสเหมือนในโอกินาว่าเป็นลักษณะเฉพาะ และคุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารทะเลสดๆ อุนิ และเนื้อวัวฮิกิที่อร่อย บนเกาะมีศาลเจ้ามากกว่า 150 แห่ง และบอกกันว่าทั้งเกาะเป็นจุดพลังงาน โดยเฉพาะที่ปลายคาบสมุทรคุโรซากิ มี “หินลิง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฮิกิ หินแปลกตาที่คล้ายกับลิงที่หันหลังให้นี้ ยังเป็นสถานที่ของตำนาน หินที่มีรูปร่างคล้ายลิงขนาดใหญ่สูง 45 เมตรนี้ มีชื่อเสียงเพราะทิวทัศน์ที่สวยงามเมื่อรวมกับพระอาทิตย์ตก และเป็นจุดที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพ
อุนเซ็นจิโกกุ (Unzenjigoku)
อุนเซ็นจิโกกุตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอุนเซ็น มีลักษณะเด่นคือน้ำพุร้อนที่พุ่งออกมาจากปล่องภูเขาไฟ มีกลิ่นฉุนของกำมะถันและควันจากพื้นดินเป็นฉากหลังที่คล้ายกับนรก นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการประหารชีวิตของคริสเตียนในอดีต
2.รีวิว
ไชน่าทาวน์ใหม่นางาซากิ
ไชน่าทาวน์ใหม่นางาซากิเป็นหนึ่งในสามไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งแต่ยุคบากุมัตสึจนถึงยุคเมจิ ชาวจีนที่อาศัยอยู่ได้เริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารจีนและร้านขายของที่ระลึกจีน สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากสถานีรถไฟนางาซากิโดยรถรางประมาณ 10 นาที มีร้านอาหารจีนประมาณ 40 ร้าน ซึ่งให้บริการอาหารจีนและขนมจีนที่หลากหลาย
สะพานแว่นตา
สะพานแว่นตา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเมืองนางาซากิ ได้รับชื่อนี้เนื่องจากเงาที่สะท้อนบนผิวน้ำมีรูปร่างคล้ายแว่นตา สะพานนี้ถือเป็นหนึ่งในสามสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น คู่กับสะพานนิฮอนบาชิและสะพานกินไทเคียว สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1634 โดยพระซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัดโคฟูคุจิ ชื่อของสะพานมาจากเงาที่สะท้อนบนน้ำที่เป็นวงกลม ดูเหมือนแว่นตา เมื่อระดับน้ำต่ำ สามารถใช้บันไดลงไปเดินเล่นริมน้ำได้ นอกจากนี้ สะพานแว่นตาและบริเวณใกล้เคียงบนฝั่งแม่น้ำนากาชิมะที่มีหินรูปหัวใจ ยังเป็นที่รู้จักในฐานะจุดพลังงานแห่งความรัก ในช่วงเทศกาลโคมไฟของนางาซากิในฤดูหนาว บริเวณรอบๆ สะพานแว่นตาจะถูกตกแต่งด้วยโคมไฟ ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาร่วมงาน
3.อาหารพื้นเมือง
4.ข้อมูลการเดินทาง
■ วิธีการเดินทางไปยังจังหวัดนางาซากิ
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการขององค์กรท่องเที่ยวคิวชู (รองรับภาษาอังกฤษ,ภาษาเกาหลี,ภาษาจีนตัวย่อ,ภาษาจีนตัวเต็ม,ภาษาไทย)
https://www.welcomekyushu.jp/pref/?mode=nagasaki
5.ข้อมูลแผนที่
